วิธีการลักทรัพย์ของเจ้าของรวม
LSPK
มาตรา ๓๓๔
บัญญัติว่า ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น
หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์
ต้องระวางโทษ...
เมื่ออ่านหัวข้อแล้วอาจตกใจกันว่า
เอ้ย !! บล็อกนี้สอนให้คนลักทรัพย์หรือหรือไง ฮ่า ๆ
ๆ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ
สำหรับบล็อกนี้ในหัวข้อ “วิธีการลักทรัพย์เจ้าของรวม” นั้น
มุ่งที่จะบอกว่าการลักทรัพย์เจ้าของรวมกันก็เป็นความผิดได้นะ เพราะหลาย ๆ
คนอาจคิดว่าเจ้าของรวมเอาทรัพย์ไปน่าจะผิดยักยอกทรัพย์มากกว่าเพราะผู้ที่เอาทรัพย์ไปนั้นน่าจะครอบครองทรัพย์ดังกล่าวอยู่
แล้วจะผิดมาตรา ๓๓๔ ได้อย่างไร
ก่อนที่เราจะลงในรายละเอียดว่าจะลักทรัพย์กันอย่างไรได้บ้างนั้น
เมื่อดูในมาตรา ๓๓๔ แล้วจะพบว่าการเอาทรัพย์ของเจ้าของรวมไปก็อาจมีความผิดฐานลักทรัพย์ได้
ศึกษาได้ดังนี้ครับ
คุณธรรมในทางกฎหมายของความผิดฐานลักทรัพย์[1]
๑.
กรรมสิทธิ์-สิทธิ์ในความเป็นเจ้าของ
๒.
การครอบครอง
การจะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ได้นั้นต้องปรากฏว่า
ผู้กระทำได้ทำร้ายคุณธรรมในทางกฎหมายทั้งสองประการคือต้องมีการทำลายกรรมสิทธิ์กล่าวคือ
จำเลยไม่ได้เป็นเจ้าของในทรัพย์สินที่เอาไป และต้องเป็นการทำลายการครอบครองด้วยกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ
จำเลยไม่ได้ครอบครองทรัพย์นั้นอยู่ในขณะที่เอาไป
แม้ว่าการครอบครองและกรรมสิทธิ์จะอยู่ที่คนละคนกันก็ตาม
เมื่อการลักทรัพย์ต้องมีการทำลายคุณธรรมในทางกฎหมายทั้งสองประการ
ดังนั้นการลักทรัพย์ของเจ้าของรวมจะเกิดขึ้นได้ต้องปรากฏว่า
จำเลยไม่ได้มีการครอบครองอยู่ในขณะนั้น
และจำเลยไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เอาไปแต่เพียงผู้เดียว(กรรมสิทธิ์รวม)
ตัวอย่างเช่น
ก.
และ ข.ได้ลงหุ้นซื้อรถยนต์หนึ่งคน เป็นทรัพย์สินที่ถือกรรมสิทธิ์รวมกัน
โดยมีข้อตกลงแบ่งการครอบครองกันอย่างเด็ดขาดเช่น ในครึ่งปีแรกให้ นาย ก.
เป็นผู้ครอบครอง ครึ่งปีหลังให้นาย ข. เป็นผู้ครอบครอง
เช่นนี้ขณะที่รถยนต์คันดังกล่าวอยู่ในความครอบครองของ นาย ก. นาย ข. ย่อมไม่มีการครอบครอง
ดังนั้นหากในเวลาดังกล่าวนาย ข. ได้เอาทรัพย์ไป ก็อาจมีความผิดฐานลักทรัพย์ได้ (ต้องไปดูโครงสร้างอื่น ๆ ด้วย)
เนื้อหาสาระยังคงเหมือนเดิมนะครับ แต่จะเปลี่ยนรูปแบบโดยจะไม่ลงไฟล์เสียงที่เป็นการละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นนะครับ เพราะคิดว่ามันคงไม่ดีหากเราทำอย่างนั้น ไว้โอกาสหน้าจะได้นำไฟล์เสียงต่าง ๆ มาเผยแพร่นะครับ
ตอบลบ