เงื่อนไขกำกับการจ่ายเงินและเงื่อนไขจำกัดความรับผิด
นายแมงมุม
เหตุที่ผู้เขียนได้เขียนบทความสั้น ๆ
นี้ขึ้นมาเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาการสอบกลางภาควิชาตั๋วเงินทำให้ผมเกิดความสับสนว่าเงื่อนไขทั้งสองอย่างนี้มันต่างกันอย่างไร
ดังนั้นบทความสั้น ๆ นี้จะสรุปว่าเงื่อนไขทั้งสองประการมีความต่างกันอย่างไรและขณะเดียวกันหากมีเงื่อนไขเหล่านั้นแล้วจะส่งผลต่อตั๋วเงินอย่างไร
ในกรณีนี้จะศึกษาเฉพาะในเรื่องเช็ค
คำสั่งอันปราศจากเงื่อนไขในการใช้เงิน
รายการในเช็ค
มาตรา ๙๘๘ อันเช็คนั้น ต้องมีรายการดังกล่าวต่อไปนี้
คือ
(๑) คำบอกชื่อว่าเป็นเช็ค
(๒) คำสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้ใช้เงินเป็นจำนวนแน่นอน
ที่ว่าต้องเป็น “คำสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้ใช้เงินเป็นจำนวนแน่นอน”
นั้น เฉพาะในส่วนที่ว่าต้องปราศจากเงื่อนไขนั้นสามารถสรุปได้ดังนี้
เงื่อนไขที่ว่านั้น คือเงื่อนไขที่ผู้รับเงินอาจได้รับเงินหรือไม่ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์อันไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต[1] เช่น ให้ธนาคารใช้เงินให้แก่นายหนึ่งจำนวน
๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท เมื่อนายหนึ่งมีบุตรเป็นผู้ชาย เช่นนี้ถือเป็นคำสั่งอันมีเงื่อนไข
ซึ่งหากตราสารใดไม่มีรายการครบถ้วนตามมาตรา ๙๘๘ ตราสารดังกล่าวย่อมไม่สมบูรณ์เป็นเช็คตามมาตรา
๙๘๙
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๖๖๕๘/๒๕๔๘ เช็คพิพาททั้งสองฉบับจำเลยเพียงแต่ลงลายมือชื่อสั่งจ่าย
โดยไม่ได้กรอกข้อความและจำนวนเงินไว้ เช็คพิพาททั้งสองฉบับดังกล่าวจึงมีรายการขาดตกบกพร่องในขณะออกเช็ค
โดยไม่มีคำสั่งปราศจากเงื่อนไขให้ใช้เงินเป็นจำนวนแน่นอนตาม ป.พ.พ. มาตรา 988 (2) จึงไม่สมบูรณ์เป็นเช็คตาม ป.พ.พ. มาตรา 987 และมาตรา
910 ประกอบมาตรา 989 วรรคหนึ่ง ทั้งเช็คพิพาททั้งสองฉบับก็มิใช่หลักฐานการกู้เงินตาม
ป.พ.พ. มาตรา 653 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดตามเช็คพิพาททั้งสองฉบับได้
รองศาสตราจารย์สหธน รัตนไพจิตร ให้ความเห็นว่าเงื่อนไขการใช้เงินนั้นรวมถึงการกระทำที่ต้องกระทำก่อนจะใช้เงินด้วย[2]เช่น
แดงอยู่เชียงใหม่สั่งซื้อสินค้าจากขาวซึ่งอยู่ที่ปัตตานีในการซื้อสินค้านี้แดงได้ออกตราสารสั่งธนาคารใช้เงินจำนวน
๑๐๐,๐๐๐ บาทให้ขาว โดยระบุไว้ในคำสั่งใช้เงินว่า “โปรดใช้เงินจำนวน ๑๐๐,๐๐๐
บาทให้ขาวเมื่อขาวได้ส่งสินค้าขึ้นรถบรรทุกเรียบร้อยแล้ว”
ดังนี้หากขาวไม่ขนสินค้า ธนาคารก็ไม่ต้องจ่ายเงิน คำสั่งดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งอันมีเงื่อนไขในการใช้เงิน
ทำให้ตราสารไม่สมบูรณ์เป็นตั๋วเงิน
เงื่อนไขจำกัดความรับผิด
มาตรา ๙๑๕
ผู้สั่งจ่ายตั๋วแลกเงินและผู้สลักหลังคนใด ๆ ก็ดี
จะจดข้อกำหนดซึ่งจะกล่าวต่อไปนี้ลงไว้ชัดแจ้งในตั๋วนั้นก็ได้ คือ
(๑) ข้อกำหนดลบล้างหรือจำกัดความรับผิดของตนเองต่อผู้ทรงตั๋วเงิน
มาตรา ๙๑๕ อนุโลมมาใช้ในเช็คตามมาตรา ๙๘๙
ด้วย ดังนั้นหมายความว่า หากเขียนข้อกำหนดลบล้างหรือจำกัดความรับผิดของผู้สั่งจ่ายลงไปในเช็คสามารถกระทำได้และมีผลบังคับตามกฎหมาย
ตัวอย่างเช่น
จากกรณีเดิม ข้อเท็จจริงเปลี่ยนเป็น “แดงจะรับผิดตามตั๋วเมื่อขาวได้ส่งสินค้าขึ้นรถบรรทุกเรียบร้อยแล้ว”[3]
เช่นนี้สามารถกระทำได้และมีความสมบูรณ์เป็นเช็คเพราะคำสั่งดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นคำสั่งที่มีเงื่อนไขในการใช้เงิน
รองศาสตราจารย์สหธน รัตนไพจิตร ได้ให้ข้อสังเกตว่า การจำกัดความรับผิดตามมาตรา
๙๑๕ นั้นเป็นเรื่องที่พิจารณาจากคำสัญญาของผู้สั่งจ่ายโดยพิจารณาด้านผู้สั่งจ่ายอย่างเดียวว่าผู้สั่งจ่ายจะต้องรับผิดเมื่อใด
หรือไม่ต้องรับผิดเมื่อใด แต่เงื่อนไขการใช้เงินนั้นเป็นคำสั่งของผู้สั่งจ่ายสั่งไปยังธนาคารผู้จ่ายว่าให้ใช้เงินได้เมื่อมีเงื่อนไขอะไรบ้าง[4]
ดังนั้นสรุปได้ดังนี้
๑.
เงื่อนไขกำกับการใช้เงินคือ
กำหนดว่าธนาคารจะต้องใช้เงินเมื่อใด ซึ่งทำให้ตราสารไม่สมบูรณ์เป็นเช็ค
๒.
เงื่อนไขจำกัดความรับผิดคือ
เงื่อนไขที่กำหนดว่าผู้สั่งจ่ายจะต้องรับผิดเมื่อใด
ตัวอย่างเปรียบเทียบ
นายหนึ่งสั่งธนาคารให้ใช้เงินจำนวน
๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทแก่นายสอง โดยมีเงื่อนไขดังนี้
๑.
ธนาคารจะใช้เงินให้แก่นายสองต่อเมื่อนายสองได้ส่งมอบสินค้าแก่ผู้ขนส่งแล้ว
๒.
นายหนึ่งจะต้องรับผิดต่อนายสองเมื่อนายสองได้ส่งมอบสินค้าแก่ผู้ขนส่งแล้ว
กรณีตาม ๑. เป็นเงื่อนไขตาม ๙๘๘ (๒)
ทำให้ไม่สมบูรณ์เป็นเช็ค แต่ตัวอย่างตาม ๒. เป็นเรื่องของมาตรา ๙๑๕ (๑)
มีผลบังคับได้
หมายเหตุ : หากเอกสารชุดนี้มีความบกพร่องประการใด
กรุณาแสดงความคิดเห็นได้ที่ http://spiderlaw.blogspot.com หรือส่งอีเมล์มาที่
pitakkits@hotmail.com
ก็เพราะ......ว่างเกิ๊น
ตอบลบ